NFT คืออะไร
🧩 NFT คืออะไร?
NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token ซึ่งในภาษาจีนแปลว่า โทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ มันเป็นประเภทของ หลักฐานสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน ที่สร้างบนบล็อกเชน ใช้เพื่อพิสูจน์ "ความเป็นเจ้าของ" หรือ "ความเป็นต้นฉบับ" ของเนื้อหาดิจิทัลบางอย่าง (ภาพ เสียงเพลง วิดีโอ ไอเท็มเสมือน ฯลฯ)
🧠 หนึ่ง แนวคิดหลัก
| ชื่อ | ความหมาย |
|---|---|
| Fungible(ที่สามารถทดแทนกันได้) | สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ มีมูลค่าเท่ากัน เช่น: 1 บิตคอยน์ = บิตคอยน์อีกตัวหนึ่ง |
| Non-Fungible(ที่ไม่สามารถทดแทนกันได้) | ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ แต่ละชิ้นมีตัวบ่งชี้ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น: ภาพวาด ชิ้นสะสม |
| Token(โทเค็น) | หลักฐานดิจิทัลบนบล็อกเชนที่แทนสินทรัพย์หรือสิทธิ์ |
ดังนั้น—
NFT = โทเค็นบนบล็อกเชนที่ใช้เพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน
🎨 สอง การใช้งานหลักของ NFT
ด้าน ตัวอย่างการใช้งาน ศิลปะ Art งานศิลปะดิจิทัล (เช่น 《Everydays》 ของ Beeple ขายได้ 69 ล้านดอลลาร์) ดนตรี Music นักดนตรีออกอัลบั้ม NFT แฟนๆ สามารถรับลิขสิทธิ์จำกัดหรือสิทธิ์互动 เกม GameFi ตัวละครในเกม อุปกรณ์ ที่ดิน ฯลฯ มีอยู่ในรูปแบบ NFT สามารถซื้อขายได้อย่างอิสระ ของสะสม Collectibles เช่น การ์ดดิจิทัลอย่าง NBA Top Shot ของสะสมจำกัด ตัวตนทางสังคม Social "ตัวบ่งชี้ตัวตน" ของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม Web3 (เช่น การถือ NFT ใบผ่านชุมชนเฉพาะ) เมตาเวิร์ส Metaverse ที่ดินเสมือน อาคาร เสื้อผ้า อวตาร สามารถใช้ NFT เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ตั๋ว / สมาชิก ออกตั๋วกิจกรรมหรือบัตรสมาชิกในรูปแบบ NFT ป้องกันการปลอมแปลงและตรวจสอบได้
⚙️ สาม เทคโนโลยีพื้นฐานของ NFT
- บล็อกเชน:โดยปกติใช้ Ethereum (Ethereum) หรือเครือข่ายอย่าง Solana、Polygon ฯลฯ
- สัญญาอัจฉริยะ(Smart Contract):ดำเนินการอัตโนมัติสำหรับการออก NFT การโอน ค่าลิขสิทธิ์ ฯลฯ
ข้อมูลเมตา(Metadata):ประกอบด้วยข้อมูลผลงาน (ชื่อ ผู้แต่ง ลิงก์ภาพ ฯลฯ) มักเก็บในระบบจัดเก็บแบบกระจายศูนย์อย่าง IPFS หรือ Arweave
💰 สี่ แหล่งที่มาของมูลค่าสำหรับ NFT
- ความขาดแคลน(Scarcity):ไม่ซ้ำกัน จำนวนจำกัด
- ความสามารถในการตรวจสอบ(Authenticity):บล็อกเชนสามารถติดตามแหล่งที่มาได้
- ความเป็นเจ้าของ(Ownership):เจ้าของมองเห็นได้公开บนเชน สามารถโอนได้
- มูลค่าชุมชนและวัฒนธรรม(Community & Culture):NFT มักผูกกับตัวตนหรือสถานะในชุมชนบางอย่าง